การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างครีมสารสกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่งความเข้มข้นร้อยละ 10 และครีมเบสในการรักษาโรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนาระดับรุนแรงน้อย
Abstract
โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้องรังที่ส่งผลต่อทั้งระบบผิวหนัง ร่างกาย และสภาพจิตใจและสังคมของผู้ป่วย การรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการใดที่ช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงินให้หายขาดได้ วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการรักษาสะเก็ดเงินชนิดผื่นนูนหนาระดับรุนแรงน้อยเปรียบเทียบระหว่างครีมสารสกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่งความเข้มข้นร้อยละ 10 และครีมเบสโดยประเมินผลการเปลี่ยนแปลงของรอยโรคสะเก็ดเงินด้วย Modified Psoriasis Area and Severity Index (mPASI) ในอาสาสมัคร 13 ราย โดยแต่ละรายจะได้รับการรักษาด้วยครีมที่ต่างกัน 2 ชนิดทาวันละ 2 ครั้ง บริเวณรอยโรคที่เกิดในอวัยวะเดียวกันทั้งสองฝั่งของร่างกาย แต่ละรอยโรคจะได้รับการสุ่ม ติดตามผลการรักษาในสัปดาห์ที่ 4 และ 8 ประเมินประสิทธิผลการรักษาจาก mPASI, ผลข้างเคียง, Dermatology Life Quality Index (DLQI) และความพึงพอใจ ผลการศึกษาพบว่าร้อยละค่าเฉลี่ย mPASI ที่เปลี่ยนแปลงหลังการรักษาด้วยการใช้ครีมสารสกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่งความเข้มข้นร้อยละ 10 mPASI ลดลงเท่ากับ 43.38 + 8.18 มากกว่าครีมเบสซึ่งลดลงเท่ากับ 32.25 + 9.6 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.002) พบอาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรงทั้งสองกลุ่มจำนวน 3 ราย เกิดอาการคันและอาการหายได้เองหลังหยุดทายา คะแนนระดับการรบกวนคุณภาพชีวิต ก่อนรักษาและหลังการรักษาลดลงแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ความพึงพอใจต่อการใช้ครีมทั้งสองชนิดไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สรุป ครีมสารสกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่งความเข้มข้นร้อยละ 10 มีประสิทธิผล สามารถนำมาใช้เป็นเป็นยาทาภายนอกสำหรับรักษาโรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นนูนหนาระดับรุนแรงน้อยได้โดยไม่ทำให้อาการของโรคแย่ลง
Full Text:
UntitledRefbacks
- There are currently no refbacks.
**ไม่สามารถแก้ไขบทความ Proceeding online ทุกกรณี**