รูปแบบแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการนำมาตรการพิเศษ แทนการดำเนินคดีอาญากับเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดทางเพศ

ดวงกมล จันทรรัตน์มณี

Abstract


       การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสถานการณ์ปัจจุบันและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดทางเพศจากการถูกดำเนินคดีอาญา 2) ค้นหารูปแบบในการดำเนินคดีอาญากับเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดทางเพศ 3) สร้างรูปแบบแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการนำมาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญากับเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดทางเพศ วิธีการศึกษาเป็นวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร และการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูล คือ ฝ่ายผู้กระทำผิด ฝ่ายผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน จำนวน 71 คน และผู้ทรงคุณวุฒิในการประเมินและรับรองรูปแบบ จำนวน 5 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนาความ  

         ผลจากการวิจัยพบว่า สถานการณ์ในปัจจุบันเด็กและเยาวชนกระทำความผิดทางเพศจัดอยู่ในลำดับที่ 6 ของประเทศ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน  คือ 1) สิทธิเสรีภาพในการดำรงชีวิต 2) สภาพจิตใจเป็นตราบาปติดตัว 3) ด้านครอบครัว 4) ด้านการเรียนและอาชีพ 5) ด้านสภาพสังคมและชุมชน เป็นปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน รูปแบบในการดำเนินคดีทางอาญาของเด็กและเยาวชน คือ  กระบวนการยุติธรรมกระแสหลักเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดด้วยวิธีการแก้แค้นทดแทน และกระบวนการยุติธรรมทางเลือกเน้นการแก้ไข บำบัด  ฟื้นฟู เพื่อแก้ไขความประพฤติเด็กและเยาวชน ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่มีความเห็นพ้องกันควรนำกระบวนการยุติธรรมทางเลือกมาบังคับเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเด็กและเยาวชนรวมถึงผู้เสียหาย

         รูปแบบแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการนำมาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญากับเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดทางเพศมีขั้นตอน ดังนี้  ขั้นตอนที่ 1 หยุดการซ้ำเติม ขั้นตอนที่ 2 หยุดการขัดแย้ง  ขั้นตอนที่ 3 หยุดตราบาป และขั้นตอนที่ 4 วางแผนการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนรวมไปถึงผู้เสียหายด้วย  โดยแบ่งผู้เสียหายเป็น 2 กรณี คือ กรณีผู้เสียหายไม่ตั้งครรภ์ และกรณีผู้เสียหายตั้งครรภ์     

 

Keywords


รูปแบบแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม, มาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญา, เด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดทางเพศ

Full Text:

Untitled

References


กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน. (2547). กระบวนการยุติธรรมทางเลือก : การส่งเสริมการระงับข้อพิพาทชุมชน ณ แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. กรุงเทพฯ.

กิตติพงษ์ กิตยารักษ์. (2550). กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์กับการแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว. ในเอกสารประกอบการสัมมนา เรื่อง ยุติธรรมชุมชน หนทางสู่สังคมแห่งความเป็นธรรม (หน้า 15-16). กรุงเทพฯ: กระทรวงยุติธรรมและโครงการพัฒนาระบบกฎหมายไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. (2551). คำอธิบายกฎหมายอาญา ภาค 1 (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: พลสยาม พริ้นติ้ง.

ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยแนวทางการพิจารณากระบวนการจัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟู ชั้นก่อนฟ้องคดี พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: กระทรวงยุติธรรม.

คณิต ณ นคร. (2553). กฎหมายอาญาภาคความผิด (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.

______. (2551). กฎหมายอาญาภาคทั่วไป (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.

คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2554). การบังคับใช้โทษทางอาญาประเภทอื่นที่มิได้อยู่ในประมวลกฎหมายอาญาของไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จุฑารัตน์ เอื้ออำนวย. (2552). การจัดการความขัดแย้งเชิงสมานฉันท์ในสถานศึกษา : กรอบแนวคิด ความสำคัญ และความท้าทาย. วารสารร่มพฤกษ์. 3(27), 27.

ชัยชนะ พรรัตนพันธุ์. (2546). การคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่เป็นเหยื่อของการกระทำความผิดทางเพศ ศึกษาเฉพาะกรณี การลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

เสียง สตรี. (2550, พฤศจิกายน 10). โพสต์ทูเดย์. หน้า 74.

มาตาลักษณ์ ออรุ่งโรจน์. (2551). กฎหมายเบื้องต้นเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางอาญาของเด็กและเยาวชน (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: เดือนตุลา.

ลัดตนา อินทพล. (2553). การหันเหเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดออกจากกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายไทย – ลาว. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ศรุดา สมพอง. (2551). การใช้กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์สำหรับเด็กและเยาวชนในชั้นศาล. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สรวิศ ลิมปรังษี. (2549). การไกล่เกลี่ยฟื้นสัมพันธ์ในคดีอาญาประสบการณ์ของศาลนิวซีแลนด์ เอกสาร

สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. (2555). รายงานสถานการณ์เด็ก. สืบค้นเมื่อ พฤษภาคม 8, 2557, จาก www.boe.moph.go.th.

อัจฉรียา ชูตินันท์. (2551). กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ โดยวิธีการประชุมกลุ่มครอบครัว และชุมชนเพื่อหันเหคดีเด็กและเยาวชน โดยไม่ต้องขึ้นสู่ศาลเยาวชนและครอบครัว. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

Lily, J.R. and others. (2002). Criminological Theory : Context and Consequences (3 rd ed.). London: SAGE Publications.

United Nations Rules for the Protection of Juvenile Deprived of their Liberty. (1990). สืบค้นเมื่อ มกราคม 21, 2557, จาก http://www.un.org/documents/ga/res/40/a40r033.htm.

United Nations Standard Minimum Rules for the Administration of Juvenile Justice. (1985). สืบค้นเมื่อ มกราคม 31, 2557, จาก http://www2.ohchr.org/english/law/pdf/beijingrules.pdf.


Refbacks

  • There are currently no refbacks.


ยินดีรับบทความวิชาการทางด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์หรือเผยแพร่ในวารสารใดมาก่อน กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขต้นฉบับและการพิจารณาตีพิมพ์ตามลำดับก่อนหลัง