ปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินกิจการของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร
Abstract
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถในการแข่งขันศูนย์บริการรถยนต์
ครบวงจร ซึ่งเป็นงานวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยการเลือกใช้กลุ่มตัวอย่างสำรวจแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) คือบุคลากรภายในกิจการประเภทศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร กรณีระบบห้ามล้อของบริษัทแห่งหนึ่ง จำนวน 100 คน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) เพื่อทดสอบสมมติฐานและหาปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินกิจการของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ผลจากการวิเคราะห์พบว่าปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการดำเนินกิจการมากเป็นอันดับหนึ่งคือ ความชำนาญของช่างภายในศูนย์บริการ อันดับสองคือความเข้าใจในการปฏิบัติงานของช่างภายในศูนย์บริการ อันดับสามคือด้านอาคารสถานที่ใช้รองรับลูกค้าระหว่างเข้ารับบริการ อันดับสี่คือความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการบริการ อันดับห้าคือการวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหาต่อผู้รับบริการ
ครบวงจร ซึ่งเป็นงานวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยการเลือกใช้กลุ่มตัวอย่างสำรวจแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) คือบุคลากรภายในกิจการประเภทศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร กรณีระบบห้ามล้อของบริษัทแห่งหนึ่ง จำนวน 100 คน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) เพื่อทดสอบสมมติฐานและหาปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินกิจการของศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ผลจากการวิเคราะห์พบว่าปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการดำเนินกิจการมากเป็นอันดับหนึ่งคือ ความชำนาญของช่างภายในศูนย์บริการ อันดับสองคือความเข้าใจในการปฏิบัติงานของช่างภายในศูนย์บริการ อันดับสามคือด้านอาคารสถานที่ใช้รองรับลูกค้าระหว่างเข้ารับบริการ อันดับสี่คือความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการบริการ อันดับห้าคือการวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหาต่อผู้รับบริการ
Full Text:
UntitledRefbacks
- There are currently no refbacks.