การวิจัยเชิงปฏิบัติการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การนิเทศแบบคลินิก โรงเรียนวัดเขาศรีวิชัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพจริงและสภาพที่คาดหวังในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
2) พัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบคลินิก และ 3) ประเมินความพึงพอใจในการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การนิเทศแบบคลินิก โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการตามแนวคิดของ Kemmis & McTaggart ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครูโรงเรียนวัดเขาศรีวิชัย จำนวน 20 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามสภาพจริงและคาดหวัง แบบทดสอบ แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน แบบบันทึกการนิเทศและแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) การดำเนินการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในสภาพจริง อยู่ในระดับปานกลาง และสภาพที่คาดหวัง อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พบว่า คะแนนเฉลี่ยความรู้ความเข้าใจหลังพัฒนาสูงกว่าก่อนได้รับการพัฒนา ผลการประเมินทักษะการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก อยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินทักษะการปฏิบัติงานของครู อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการนิเทศการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การนิเทศแบบคลินิก อยู่ในระดับมากที่สุด และ3) ระดับความพึงพอใจของครูที่มีต่อการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การนิเทศแบบคลินิก อยู่ในระดับมากที่สุด
2) พัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้กระบวนการนิเทศแบบคลินิก และ 3) ประเมินความพึงพอใจในการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การนิเทศแบบคลินิก โดยใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการตามแนวคิดของ Kemmis & McTaggart ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครูโรงเรียนวัดเขาศรีวิชัย จำนวน 20 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามสภาพจริงและคาดหวัง แบบทดสอบ แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน แบบบันทึกการนิเทศและแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) การดำเนินการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในสภาพจริง อยู่ในระดับปานกลาง และสภาพที่คาดหวัง อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พบว่า คะแนนเฉลี่ยความรู้ความเข้าใจหลังพัฒนาสูงกว่าก่อนได้รับการพัฒนา ผลการประเมินทักษะการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก อยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินทักษะการปฏิบัติงานของครู อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการนิเทศการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การนิเทศแบบคลินิก อยู่ในระดับมากที่สุด และ3) ระดับความพึงพอใจของครูที่มีต่อการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การนิเทศแบบคลินิก อยู่ในระดับมากที่สุด
Full Text:
UntitledRefbacks
- There are currently no refbacks.
**ไม่สามารถแก้ไขบทความ Proceeding online ทุกกรณี**