เจตคติของพนักงานสืบสวนเกี่ยวกับพยานหลักฐานในการตายของบุคคลเกิดจากการ ฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม

เพิ่มพร ตุทานนท์, ณรงค์ กุลนิเทศ

Abstract


การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาเจตคติของพนักงานสืบสวนเกี่ยวกับพยานหลักฐานในการตายของบุคคลเกิดจากการ ฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม 2) เพื่อศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานของพนักงานสืบสวนเกี่ยวกับพยานหลักฐาน การตายของบุคคลเกิดจากการ ฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม และ      3) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของการนำนิติวิทยาศาสตร์มาใช้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการสืบสวนสอบสวนคดีคดีฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรมของบุคลากรที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Quality Research) โดยทำการสัมภาษณ์บุคคลากรที่มีบทบาทหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนเมื่อมีเหตุการตายเกิดขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย พนักงานสืบสวน 10 คน ผลการสัมภาษณ์พบว่า 1) เจตคติของ พนักงานสืบสวนที่มีต่อคดีฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม เมื่อมีการตายเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรมระบุจากกล้องวงจรปิดว่าการตายเกิดจากอะไรและในหลายเหตุการณ์ไม่ปรากฎพยานหลักฐานบ่งชี้ ในด้านนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งการนำความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาความจริงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมามีบทบาทเป็นเครื่องมือสำคัญในการสืบสวน (แสวงหาข้อเท็จจริง) และสอบสวน(รวบรวมพยานหลักฐาน) เพื่อให้ปรากฎเหตุแห่งการตายที่แท้จริง 2) ปัญหาที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานพบว่า เจ้าหน้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ในการทำงานการสืบสวนสอบสวนคดีมีความแตกต่างกัน ขาดความร่วมมือของพยานปากสำคัญในการดำเนินคดี การไปถึงที่เกิดเหตุล่าช้าทำให้วัตถุพยานถูกเหยียบย่ำสูญหาย และวัตถุพยานที่เก็บจากสถานที่เกิดเหตุสูญหายในการตรวจพิสูจน์หลักฐาน 3) ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จ ของการนำนิติวิทยาศาสตร์มาใช้คือต้องมีการรักษาสถานที่เกิดเหตุต้องถูกเก็บรักษาหลังจากเกิดเหตุอย่างทันทีทันใด การวัตถุพยานวิธีการจัดเก็บและผู้จัดเจ็บต้องมีความรู้ วิธีการจัดเก็บต้องปริมาณต้องเพียงพอในการส่งตรวจพิสูจน์ การส่งตรวจพิสูจน์ระยะเวลาต้องทันเวลาที่กำหนดเพื่อไม่ให้วัตถุพยานเสียหายหรือเสื่อมสภาพ และเครื่องมือตรวจพิสูจน์ต้องมีประสิทธิภาพ สมบูรณ์เชื่อถือได้

Full Text:

Untitled

Refbacks

  • There are currently no refbacks.